วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การผสมปุ๋ยเคมีใช้เอง

การผสมปุ๋ยเคมีใช้เอง
ปัจจุบัน เกษตรกรที่มีอาชีพในการทำสวน เช่น ยางพารา  ปาล์มน้ำมัน  ไม้ผลต่าง ๆ ไม้ดอก ไม้ประดับและพืชผัก มีความต้องการที่จะเพิ่มผลผลิต ให้สูงขึ้นทั้งสิ้น ซึ่งในการที่จะเพิ่มผลผลิต
   นอก จากเกษตรกรจะใช้พืชพันธุ์ที่ดีแล้ว การดูแลบำรุงรักษา ก็ต้องมีการใช้ปุ๋ยเคมีที่ดีด้วย จากปัญหาปุ๋ยเคมีที่จำหน่ายในท้องตลาดมีราคาแพง เกษตรกรจึงควรที่จะลดต้นทุนการผลิตโดยการผสมปุ๋ยเคมีขึ้นใช้เอง เพื่อให้เกิดผลกำไรมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจได้ว่าปุ๋ยเคมีที่เกษตรกรผสมขึ้นมาเอง มีคุณภาพและปริมาณธาตุอาหารตรงตามที่ต้องการ และไม่ปลอมแน่นอน

   ปุ๋ยผสม หมายถึง ปุ๋ยเคมีที่มีธาตุอาหารอยู่ตั้งแต่ 2 ธาตุขึ้นไป โดยการนำอาแม่ปุ๋ยชนิดต่าง ๆ มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยมีธาตุอาหารตรงตามเกรดหรือสูตรที่เกษตรกรต้องการ
   แม่ปุ๋ย หมายถึง ปุ๋ยเคมีที่นำมาใช้ในการทำปุ๋ยผสม โดยแม่ปุ๋ยเคมีอาจเป็นปุ๋ยเชิงเดี่ยวหรือปุ๋ยเคมีที่ใช้ธาตุอาหารรับรองแก่ พืชเพียงธาตุเดียว หรือ 2 ธาตุ คือ ไนโตรเจนฟอสฟอรัส และโปตัสเซี่ยม
ชนิดของแม่ปุ๋ยเคมีที่ให้ปริมาณธาตุอาหารรับรอง
   - ธาตุอาหารไนโตรเจน (N) ได้แก่ แอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) แอมโมเนียคลอไรด์ (25-0-0) แอมโมเนียมไนเตรท(34-0-0) ยูเรีย (46-0-0)
   - ธาตุอาหารฟอสฟอรัส (P) ได้แก่ ร๊อคฟอสเฟต (0-3-0) ซูเปอร์ฟอสเฟต (0-20-0) ดับเบิ้ลซุปเปอร์ฟอสเฟต (0-40-0) ทริปเปิ้ลซุปเปอร์ฟอสเฟต (0-46-0)
   - ธาตุอาหารโปตัสเซี่ยม (K) ได้แก่ โปตัสเซี่ยมซัลเฟต (0-0-50) โปตัสเซี่ยมคลอไรด์ (0-0-60)
   - ธาตุอาหารไนโตรเจน (N) และฟอสฟอรัส (P) ได้แก่ ไดแอมโมเนียมฟอสเฟต (18-46-0) โมโนแอมโมเนียฟอสเฟต (11-52-0)
   - ธาตุอาหารไนโตรเจน (N) และโปตัสเซี่ยม (K) ได้แก่ โปตัสเซี่ยมไนเตรท (13-0-46)

วิธีการผสมปุ๋ยเคมีเมื่อ เกษตรกรทราบแล้วว่าจะต้องใช้ปุ๋ยเคมีชนิดใด และน้ำหนักสุทธิที่จะใช้เท่าใดแล้ว ก็นำมาผสมกัน เกษตรกรควรรู้วิธีผสมและวัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องใช้คือ
   1. ควรผสมบนพื้นปูนซิเมนต์ที่แห้ง หรือบนพื้นดินที่เรียบมีผ้าใบรองพื้น
   2. ควรผสมไม่เกินครั้งละ 200 กิโลกรัม เพราะจะทำให้ปุ๋ยผสมคลุกเคล้าไม่ทั่วถึง
   3. อุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมควรแห้ง เช่น จอบ พลั่ว หากต้องการปริมาณมากควรใช้เครื่องปูนซีเมนต์ หรือเครื่องผสมอาหารสัตว์ขนาดเล็กที่ได้
   4. ให้เทแม่ปุ๋ยที่จะผสมจำนวนมากให้อยู่ด้านล่าง ส่วนปริมาณน้อยให้ไว้ชั้นบนขึ้นมาตามลำดับ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วจึงนำไปใช้ทันที

การเก็บรักษา
   1. เมื่อใช้ปุ๋ยเคมีไม่หมดให้เก็บไว้ในกระสอบพลาสติกสานชั้นนอก โดยชั้นในมีถุงพลาสติกใสเรียบร้อยหรือมัดปากถึงชั้นในและนอกให้แน่นสนิท
   2. ควรเก็บไว้ในที่ร่ม และแห้ง ไม่โดนแสงแดดและฝน
   3. หากวางบนพื้นปูนซีเมนต์ควรมีไม้รองรับ

ตัวอย่างการคำนวณปุ๋ยผสม
    ถ้าหากต้องการปุ่ยผสมสูตร 20-8-20  โดยใช้แม่ปุ๋ย 3 ตัว ดังกล่าว
    วิธีการคำนวณ
       คำนวณหา % ฟอสฟอรัส ก่อน
        8 % ฟอสฟอรัส ใช้แม่ปุ๋ยไดแอมฯ    = 8 x 100    =  17.4  กก.
                                                              46
      แม่ปุ๋ยไดแอมฯ  17.4 กก. มีไนโตรเจนติดมาด้วย     = 18 x 17.4  =  3.1 กก.
                                                                                100
ดัง นั้น นำไนโตรเจน 3.1 กก. ไปหักออกจากไนโตรเจน 20 % จากสูตรที่ต้องการผสม ไนโตรเจนยังขาดอีก 16.9 กก. (20-3.1=16.9 กก.) เอาไปคำนวณหาจากแม่ปุ๋ยยูเรีย
                   ต้องการไนโตรเจน 16.9 กก. ใช้ยูเรีย      16.9 x 100  = 36.7 กก.
                                                                               46
และต้องการโพแทสเซี่ยม 20 % ใช้โพแทสเซี่ยมคลอไรด์  20 x 100     = 33.3 กก.
                                                                                  60
ดัง นั้น เพื่อให้ได้ปุ๋ยผสมที่มีธาตุอาหารไนโตรเจน 20 กก. ฟอสฟอรัส  8  กก. และโพแทสเซี่ยม 20 กก. หรือสูตร 20-8-20 จะต้องใช้แม่ปุ๋ย 
                            
    - ปุ๋ยไดแอมโมเนียมฟอสเฟต      17.4  กก.
                                - ปุ๋ยยูเรีย                               36.7  กก.
                                - ปุ๋ยโพแทสเซี่ยมคลอไรด์      =   33.3  กก.
                                รวมน้ำหนักปุ๋ยผสม                   87.4  กก.
       เนื่อง จากน้ำหนักปุ๋ยที่ผสมได้ไม่ครบ 100 กก. แสดงว่าปุ๋ยผสมที่ได้ มีสูตรสูงกว่าที่กำหนดไว้ ดังนั้น เมื่อนำปุ๋ยผสมนี้ไปใช้ก็ต้องลดอัตราปุ๋ยที่ควรจะใช้โดยวิธีคำนวณ เช่น  ถ้าใช้ปุ๋ยสูตร 20-8-20 ต้นยางอายุ 15 เดือน ที่ปลูกในเขตปลูกยางเดิมเป็นดินร่วน ใช้อัตรา 150 กรัม/ต้น แต่เมื่อใช้ปุ๋ยผสมเองจะต้องใส่เพียง 130 กรัม/ต้น เท่านั้น
                   การคำนวณ  น้ำหนักปุ๋ย  100 กก. ใช้อัตรา   =  150  กรัม
                                  น้ำหนักปุ่ย  87.4 กก. ใช้อัตรา   = 150 x 87.4  =   131.10     กรัม/ต้น
                                                                                   100
                                                                       หรือประมาณ  130  กรัม/ต้น

    ดาวน์โหลด โปรแกรมคำนวณปุ๋ยผสม สูตรต่าง
ตารางสำเร็จรูปสำหรับผสมปุ๋ยเคมีไว้ใช้เอง
 http://web.ku.ac.th/agri/fertilizer/table.htm
  
อุปกรณ์

เครื่องชั่งขนาด 25-50 กก., พลั่วหรือจอบ, ถังและขันพลาสติค, แม่ปุ๋ย

ขั้นตอนการผสมปุ๋ย
            เลือกสูตรและอัตราการใช้กับพืชจากคำแนะนำ คำนวณหาปริมาณ และชั่ง แม่ปุ๋ยแต่ละชนิดจากตาราง นำแม่ปุ๋ยที่ชั่งได้เทลงบนพื้นเรียบและแห้ง ใช้จอบ, พลั่ว ผสมคลุกเคล้าปุ๋ยในกองให้เข้ากัน นำบรรจุกระสอบเพื่อขนย้ายไปไร่นา การหว่านหรือใส่ต้องใส่ปริมาณน้อยกว่าเดิมเพราะไม่มีสารตัวเติม
ข้อดี
  • ตัดปัญหาเรื่องปุ๋ยปลอม/ปุ๋ยไม่ได้มาตรฐาน
  • ใช้ปุ๋ยราคายุติธรรม มีทางเลือกเพิ่มขึ้น
  • สูญเสียน้อยกว่า เพราะลงทุนถูกกว่า
  • ถ้าชำนาญสามารถปรับสูตรได้
  • มีอำนาจในการต่อรองราคา
  • มีปุ๋ยใช้ทันเวลา
ข้อจำกัด
  • เสียเวลาผสม (10 กระสอบ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)
  • ผสมแล้วควรใช้ให้หมดใน 30 วัน
  • แม่ปุ๋ยมีขายไม่ครบทั้ง 3 ชนิด
  • แหล่งขายแม่ปุ๋ยมีน้อย
  • ต้องอ่านเข้าใจจึงทำได้
  • ต้องมีตารางผสมปุ๋ย
........................................................................................................................
เพิ่มเติม
ปุ๋ยยางพาราก่อนเปิดกรีด
-
เขตปลูกยางเดิม ใช้สูตร 20-8-20
- เขตปลูกยางใหม่ ใช้สูตร 20-10-12


ปุ๋ยยางพาราหลังเปิดกรีด
-
ทุกเขตปลูกยาง ใช้สูตร 30-5-18
- เขตปลูกยางเดิม และเขตปลูกยางใหม่ ใส่ปุ๋ยครั้งละ 500 กรัมต่อต้น ปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรก ใส่ต้นฤดูฝน หลังยางผลัดใบในขณะที่ยังเป็นใบเพส ครั้งที่สอง ใส่ก่อนใบยางจะแก่


การผสมปุ๋ยเคมีใช้เอง
-
แม่ปุ๋ยที่แนะนำให้ใช้ เป็นแม่ปุ๋ยที่สะดวกในการจัดซื้อและราคาถูก ได้แก่ DAP (18-46-0) MOP (0-0-60) และ ยูเรีย (46-0-0)

ตัวอย่างการผสมปุ๋ยสูตรต่าง ฯ ใช้เอง จำนวน 100 กิโลกรัม จากแม่ปุ๋ยทั้ง 3 ชนิด

สูตรปุ๋ย
DAP (18-46-0)
MOP (0-0-60)
UREA (46-0-0)
20-8-20
18
34
38
20-10-12
22
20
36
30-5-18
10
30
60
ปุ๋ยผสมใช้เองไม่แนะนำให้ใช้สารตัวเติม




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น