ข้อมูลวิชาการยางพารา
1. ภาพรวมอุตสาหกรรมยางพาราของโลก
1.1 การผลิตยางพารา
ในปี 2548 ทั่วโลกมีประเทศผู้ปลูกยาง 23 ประเทศ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 8.78 ล้านเฮกตาร์ แบ่งเป็นสวนขนาดเล็กร้อยละ 80 และสวนขนาดใหญ่ร้อยละ 20 อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีพื้นที่ปลูกยางมากที่สุด คือ 3.37 ล้านเฮกตาร์ รองลงมาคือ ไทย 1.98 ล้านเฮกตาร์ และมาเลเซีย 1.43 ล้านเฮกตาร์ ตามลำดับ เฉพาะ 3 ประเทศนี้มีพื้นที่ปลูกยางรวมกันมากกว่า 6.78 ล้านเฮกตาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 77 ของพื้นที่ปลูกยางทั้งโลก (ตารางที่ 1) การผลิตยางพาราของทุกประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในปี 2539 ทั่วโลกมีปริมาณการผลิตยางพารา 6.44 ล้านตัน (ตารางที่ 2) และเพิ่มขึ้นเป็น 8.70 ล้านตัน ในปี 2548 โดยประเทศผู้ผลิตยางมากที่สุด คือประเทศไทย 2.83 ล้านตัน รองลงมาคืออินโดนีเซีย 2.27 ล้านตัน และมาเลเซีย 1.13 ล้านตัน ปริมาณการผลิตยางพาราของ 3 ประเทศนี้รวมกันคิดเป็นร้อยละ 71.58 ของการผลิตยางทั้งหมด (ตารางที่ 3) (สถาบันวิจัยยาง, 2549)
1.2 การบริโภคยางพารา
การบริโภคยางพารามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยยางพาราร้อยละ 60-70 นำไปใช้ในการผลิตล้อรถยนต์ (กรมวิชาการเกษตร, 2547) ในปี 2539 มีปริมาณการบริโภคยางพารา 6.11 ล้านตัน (ตารางที่ 4) และมีปริมาณการบริโภคเพิ่มขึ้นเป็น 8.78 ล้านตัน ในปี 2548 (ตารางที่ 5) ประเทศที่บริโภคยางพารามากที่สุดคือ จีน 1.83 ล้านตัน รองลงมาคือ อเมริกา 1.16 ล้านตัน และญี่ปุ่น 0.87 ล้านตัน ตามลำดับ (สถาบันวิจัยยาง, 2549)
1.3 การค้ายางพารา
1.3.1 การส่งออกยางพาราในตลาดโลก
ประเทศผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่คือประเทศกำลังพัฒนาที่ผลิตยางพาราในทวีปเอเชีย ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ในปี 2548 ประเทศเหล่านี้มีการส่งออกยางพารารวมกันมากกว่า 5.32 ล้านตัน (ตารางที่ 6) และส่วนใหญ่มีการบริโภคยางพาราภายในประเทศเพียงร้อยละ 10-35 ของปริมาณยางพาราทั้งหมด (ตารางที่ 7) ซึ่งยางที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะส่งขายให้กับประเทศที่มีความเจริญทางอุตสาหกรรม เช่น จีน อเมริกา และญี่ปุ่น (สถาบันวิจัยยาง, 2549)
1.3.2 การนำเข้ายางพาราของประเทศคู่ค้า
ในปี 2548 ประเทศที่นำเข้ายางพารามากที่สุดคือ อเมริกา 1.16 ล้านตัน รองลงมาคือ จีน 1.33 ล้านตัน และญี่ปุ่น 0.85 ล้านตัน ตามลำดับ ส่วนประเทศเกาหลี เยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปน มีปริมาณการนำเข้า 0.19-0.37 ล้านตัน (ตารางที่ 8) (สถาบันวิจัยยาง, 2549)
ตารางที่ 1 พื้นที่ปลูกยางธรรมชาติของประเทศต่างๆ พ.ศ. 2548( หน่วย 1,000 เฮกตาร ์)
ประเทศ | สวนขนาดใหญ่ | สวนขนาดเล็ก | รวม |
อินโดนีเซีย
ไทย
มาเลเซีย
จีน
อินเดีย
เวียดนาม
บราซิล
ศรีลังกา
ไนจีเรีย
ไลบีเรีย
เมียนมาร์
โก๊ตดิวัวร์
ฟิลิปปินส์
กัมพูชา
กัวเตมาลา
คาเมรูน
คองโก
เม็กซิโก
ปาปัวนิวกินี
กานา
กาบอง
กินี
แอฟริกากลาง | 549.0
85.0
186.0
-
69.0
334.4
80.0
57.0
60.0
60.4
46.0
70.0
92.0
-
-
39.8
25.0
-
9.5
16.1
10.0
4.5
- | 2,823.0
1,895.1
1,244.5
-
494.7
83.6
100.0
101.0
90.0
48.5
58.8
25.8
-
-
-
2.2
10.0
-
8.7
0.8
3.0
1.5
- | 3,372.0
1,980.1
1,430.7
618.0
563.0
418.0
180.0
158.0
150.0
108.9
104.8
95.8
92.0
52.3
44.5
42.0
35.0
21.0
18.2
16.9
13.0
6.0
1.0 |
รวม | 1793.9 | 6,990.5 | 8,784.4 |
หมายเหตุ สวนขนาดใหญ่มีพื้นที่มากกว่า 40 เฮกตาร์
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
ตารางที่ 2 ปริมาณการผลิตยางพาราของประเทศต่างๆ ปี 2539-2543( หน่วย :1,000 ตัน)
ประเทศ | 2539 | 2540 | 2541 | 2542 | 2543 |
ไทย
อินโดนีเซีย
มาเลเซีย
จีน
อินเดีย
ศรีลังกา
ไลบีเรีย
ไนจีเรีย
อื่นๆ | 1,970.4
1,527.0
1,082.5
430.0
540.1
112.5
30.0
63.8
2,210.7 | 2,032.7
1,504.8
971.1
444.0
580.3
105.8
67.2
65.0
699.1 | 2,075.9
1,714.0
885.7
450.0
591.1
95.7
75.0
92.5
840.1 | 2,154.6
1,599.2
768.9
460.0
620.1
96.6
100.0
58.0
1,005.6 | 2,346.4
1,501.1
927.6
445.0
629.0
87.6
105.0
55.0
667.3 |
รวม | 6,440.0 | 6,470.0 | 6,820.0 | 6,863.0 | 6,764.0 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
ตารางที่ 3 ปริมาณการผลิตยางพาราของประเทศต่างๆ ปี 2544-2548 (หน่วย : 1,000 ตัน )
ประเทศ | 2544 | 2545 | 2546 | 2547 | 2548 |
ไทย
อินโดนีเซีย
มาเลเซีย
จีน
อินเดีย
ศรีลังกา
ไลบีเรีย
ไนจีเรีย
อื่นๆ | 2,319.6
1,670.3
882.1
464.0
631.5
86.2
107.0
45.0
1,036.3 | 2,615.1
1,630.0
889.8
468.0
640.8
90.5
109.0
42.0
817.8 | 2,876.0
1,792.2
985.6
480.0
707.1
92.0
110.0
35.0
895.1 | 2,984.3
2,066.2
1,168.7
486.0
742.6
94.7
115.0
40.0
936.5 | 2,832.5
2,270.8
1,126.0
428.0
771.5
104.4
112.0
40.0
1,017.8 |
รวม | 7,242.0 | 7,303.0 | 7,973.0 | 8,634.0 | 8,703.0 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
ตารางที่ 4 ปริมาณการบริโภคยางพาราของประเทศสำคัญๆ ปี 2539-2543( หน่วย:1,000ตัน)
ประเทศ | 2539 | 2540 | 2541 | 2542 | 2543 |
อเมริกา
จีน
ญี่ปุ่น
อินเดีย
มาเลเซีย
เกาหลี
เยอรมัน
ฝรั่งเศส
อื่นๆ | 1,001.7
810.0
714.5
558.2
357.4
300.0
193.0
182.2
1,993.0 | 1,044.1
910.0
713.0
571.7
326.9
302.0
212.0
192.3
2,188.0 | 1,157.4
839.0
707.3
580.3
334.1
282.0
247.0
223.0
2,199.9 | 1,16.3
852.0
734.2
619.0
344.4
332.8
226.0
240.0
3,291.6 | 1,194.8
1,080.0
751.8
637.7
363.7
332.4
250.0
270.0
2,432.6 |
รวม | 6,110.0 | 6,460.0 | 6,570.0 | 6,640.0 | 7,313.0 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
ตารางที่ 5 ปริมาณการบริโภคยางพาราของประเทศสำคัญ ปี 2544-2548(หน่วย : 1,000 ตัน)
ประเทศ | 2544 | 2545 | 2546 | 2547 | 2548 |
อเมริกา
จีน
ญี่ปุ่น
อินเดีย
มาเลเซีย
เกาหลี
เยอรมัน
ฝรั่งเศส
อื่นๆ | 974.1
1,215.0
729.2
630.6
400.9
331.8
246.0
282.0
2,409.4 | 1,110.8
1,310.0
749.0
680.0
407.9
325.6
247.0
230.7
2,481.0 | 1,078.5
1,485.0
784.2
717.1
420.8
332.6
260.3
300.2
2,584.3 | 1,143.6
1,630.0
814.8
745.3
402.8
351.7
242.3
230.1
2,782.4 | 1,159.2
1,826.0
857.4
789.2
386.5
369.8
263.0
230.0
2,895.9 |
รวม | 7,219.0 | 7,542.0 | 7,963.0 | 8,343.0 | 8,777.0 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
ตารางที่ 6 ปริมาณการส่งออกยางพาราของประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ปี 2539-2548(หน่วย : 1,000 ตัน)
ปี | ไทย | อินโดนีเซีย | มาเลเซีย |
2539
2540
2541
2542
2543
2544
2545
2546
2547
2548 | 1,763.0
1,837.1
1,839.4
1,886.3
2,166.2
2,042.1
2,354.4
2,573.4
2,637.1
2,632.7 | 1,434.3
1,403.8
1,641.2
1,494.6
1,379.6
1,496.9
1,502.2
1,660.5
1,875.1
2,023.9 | 709.7
586.8
424.9
435.5
196.4
162.1
430.0
509.7
679.9
666.0 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
ตารางที่ 7 การใช้ยางธรรมชาติของผู้ผลิต(หน่วย : 1,000 ตัน )
ปี | ไทย | อินโดนีเซีย | มาเลเซีย | ฟิลิปปินส์ | ศรีลังกา | เวียดนาม | ไนเจียเรีย | เมียนมาร์ |
2539
2540
2541
2542
2543
2544
2545
2546
2547
2548 | 173.7
182.0
186.4
226.9
242.5
253.1
278.4
298.7
302.0
330.0 | 142.0
141.0
97.0
116.0
139.0
142.0
145.0
156.0
196.0
221.0 | 357.4
326.9
334.1
344.4
363.7
400.9
407.9
420.8
402.8
386.5 | 28.0
34.0
36.0
35.0
37.0
31.0
31.0
27.8
36.1
39.5 | 39.9
44.0
53.6
53.8
55.1
53.9
54.4
56.8
54.4
71.0 | 17.0
18.0
19.0
42.0
44.0
49.0
54.0
60.0
62.0
65.0 | 15.0
12.0
18.5
18.0
17.0
16.0
16.0
16.0
16.0
16.0 | 5.0
5.0
5.0
4.0
5.0
5.0
5.0
5.5
5.5
6.0 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
ตารางที่ 8 ปริมาณการนำเข้ายางพาราของประเทศต่างๆ ในปี 2539-2548( หน่วย : 1,000 ตัน)
ปี | อเมริกา | จีน | ญี่ปุ่น | เกาหลี | เยอรมัน | ฝรั่งเศส | สเปน | อังกฤษ |
2539
2540
2541
2542
2543
2544
2545
2546
2547
2548 | 1,014.0
1,044.2
1,176.8
1,116.3
1,191.6
972.1
1,110.3
1,077.0
1,143.6
1,159.2 | 489.5
361.7
411.1
401.8
820.4
943.3
914.7
1,149.6
1,205.9
1,329.2 | 724.1
730.4
678.0
755.4
801.5
713.3
771.8
791.8
800.7
848.6 | 299.4
299.3
282.1
331.6
303.8
330.3
323.4
332.6
351.7
369.8 | 193.3
212.4
246.6
225.8
250.1
245.3
242.6
260.3
242.3
263.0 | 182.1
192.2
223.0
240.0
270.0
282.0
230.7
300.2
230.1
230.0 | 129.9
148.0
158.7
161.4
171.4
183.7
182.1
188.5
1914
185.5 | 111.3
120.3
139.0
126.9
122.6
98.0
76.0
90.9
86.3
82.3 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
2. อุตสาหกรรมยางพาราในประเทศไทยและประเทศผู้ผลิตที่สำคัญ
2.1 ภาพรวมยางพาราไทย
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีปริมาณการผลิต และการส่งออกยางพารามากที่สุดในโลกและมีพื้นที่ปลูก ปริมาณการผลิต และการส่งออกยางพารามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ในปี 2548 ประเทศไทยสามารถผลิตยางพาราได้ถึง 2.94 ล้านตัน และส่งออก 2.63 ล้านตัน หรือร้อยละ 90 ของปริมาณที่ผลิตได้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือประมาณ 0.33 ล้านตัน ใช้บริโภคภายในประเทศ (ตารางที่ 9) (สถาบันวิจัยยาง, 2549) ซึ่งการส่งออกยางพาราในปี 2548 นำรายได้เข้าประเทศกว่า 148,868.45 ล้านบาท (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2549)
2.2 สถานการณ์การผลิตยางพาราไทย
2.2.1 การผลิต พื้นที่ปลูก ลักษณะการปลูกยางพาราในประเทศไทย ปริมาณการผลิตยางพารา และประสิทธิภาพการผลิต
ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกยางพาราประมาณ 12.62 ล้านไร่ หรือร้อยละ 22.54 ของพื้นที่ปลูกยางทั้งโลก เป็นสวนยางขนาดเล็กร้อยละ 95 ที่เหลือเป็นส่วนขนาดใหญ่ (ตารางที่ 1)มีพื้นที่ปลูกยางส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้คือ 10.62 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 84 ของพื้นที่ปลูกยางทั้งประเทศ ส่วนพื้นที่ปลูกยางที่เหลืออยู่ในภาคตะวันออกและภาคกลาง 1.4 ล้านไร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 0.59 ล้านไร่ และพื้นที่บางส่วนของภาคเหนือ 0.18 ล้านไร่ (ตารางที่ 9) ประเทศไทยมีปริมาณการผลิตยางพาราเพิ่มขึ้นทุกปี จากในปี 2539 ที่ผลิตได้ 1.97 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเป็น 2.94 ล้านตัน ในปี 2548 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 32.55 ของปริมาณการผลิตยางพาราทั่วโลก (ตารางที่ 10) ประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทยได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และอเมริกา (ตารางที่ 11)
2.2.2 การแปรรูปยางพาราขั้นต้นในประเทศไทย การผลิตน้ำยางข้น ยางแผ่น ยางแท่ง และต้นทุนการผลิต
การแปรรูปยางพาราขั้นต้นในประเทศไทยได้แก่ การผลิตน้ำยางข้น ยางแท่ง และยางแผ่นรมควัน ซึ่งการส่งออกส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปยางแผ่นรมควัน และยางแท่ง ในปี 2548 ประเทศไทยมีการส่งออกยางพาราในรูปยางแผ่นรมควัน 0.92 ล้านตัน ยางแท่ง 1.11 ล้านตัน และน้ำยางข้น 0.49 ล้านตัน ซึ่งปริมาณการแปรรูปและส่งออกยางพาราในรูปยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และน้ำยางข้นคิดเป็นร้อยละ 35 42 และ 19 ของปริมาณการส่งออกยางพาราทั้งหมด ตามลำดับ โดยการส่งออกในรูปยางแท่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (ตารางที่ 12)
ตารางที่ 9 พื้นที่ปลูกยางพาราของประเทศไทย ในปี 2546(หน่วย : ไร)
จังหวัด | พื้นที่ปลูก | พื้นที่กรีด |
1. กระบี่
2. ชุมพร
3. ตรัง
4. นครศรีธรรมราช
5. นราธิวาส
6. ปัตตานี
7. พังงา
8. พัทลุง
9. ภูเก็ต
10. ยะลา
11. ระนอง
12. สงขลา
13. สตูล
14. สุราษฎร์ธานี | 586,302
400,579
1,290,757
1,286,342
980,180
278,434
639,345
511,941
109,965
1,021,284
106,693
1,387,861
266,452
1,754,996 | 480,358
327,759
1,131,988
1,052,643
762,784
210,403
559,651
403,709
98,354
755,012
88,970
1,141,730
213,951
1,436,362 |
รวมภาคใต้ | 10,621,131 | 8,663,674 |
15. ประจวบคีรีขันธ์
16. กาญจนบุรี
17. จันทบุรี
18. ฉะเชิงเทรา
19. ชลบุรี
20. ตราด
21. ปราจีนบุรี
22. ระยอง
23. ราชบุรี
24. สระแก้ว | 41,175
33,859
329,240
76,929
135,133
197,985
2,551
560,402
1,635
10,070 | 27,711
27,865
236,471
28,251
111,065
157,337
1,091
402,587
1,030
9,766 |
รวมภาคตะวันออกและภาคกลาง | 1,388,979 | 1,003,174 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2547)
ตารางที่ 9 พื้นที่ปลูกยางพาราของประเทศไทย ในปี 2546 (ต่อ)(หน่วย : ไร่)
จังหวัด | พื้นที่ปลูก | พื้นที่กรีด |
25. กาฬสินธุ์
26. ขอนแก่น
27. ชัยภูมิ
28. นครพนม
29. นครราชสีมา
30. บุรีรัมย์
31. มหาสารคาม
32. มุกดาหาร
33. ยโสธร
34. ร้อยเอ็ด
35. เลย
36. ศรีสะเกษ
37. สกลนคร
38. สุรินทร์
39. หนองคาย
40. หนองบัวลำภู
41. อำนาจเจริญ
42. อุดรธานี
43. อุบลราชธานี | 20,193
8,629
7,278
32,368
4,978
75,967
2,101
27,070
15,190
11,252
39,375
40,950
21,627
41,912
142,905
7,762
5,096
53,034
32,626 | 12,614
3,030
4,366
21,117
2,903
34,404
1,549
11,158
9,698
8,661
32,576
28,043
10,305
18,149
74,973
4,834
1,384
35,844
18,126 |
รวมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | 590,313 | 333,734 |
44. เชียงราย
45. เพชรบูรณ์
46. น่าน
47. พะเยา
48. พิษณุโลก
49. อุทัยธานี | 910
4,345
1,020
606
8,966
2,522 | 910
4,345
426
606
3,900
166 |
รวมภาคเหนือ | 18,369 | 10,303 |
รวมทั้งประเทศ | 12,618,792 | 10,010,885 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2547)
ตารางที่10 ปริมาณการผลิต การส่งออก การบริโภค และสต็อคยางพาราของประเทศไทย(หน่วย : 1,000 ตัน)
ปี | การผลิต | การส่งออก | การบริโภคในประเทศ | สต็อค |
2539
2540
2541
2542
2543
2544
2545
2546
2547
2548 | 1,970.27
2,032.71
2,075.95
2,154.56
2,346.49
2,319.55
2,615.10
2,876.01
2,984.29
2,937.16 | 1,762.99
1,837.15
1,839.40
1,886.34
2,166.15
2,042.08
2,354.42
2,573.45
2,637.10
2,632.40 | 173.67
182.02
186.38
226.92
242.55
253.11
278.36
298.70
318.65
334.65 | 147.67
159.37
209.55
250.85
188.64
213.00
196.68
202.24
232.56
204.26 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
ตารางที่ 11 ตลาดส่งออกยางที่สำคัญของประเทศไทย(หน่วย : 1,000 ตัน)
ปี | ญี่ปุ่น | จีน | อเมริกา | มาเลเซีย | เกาหลีใต้ | ยุโรป | อื่นๆ | รวม |
2539
2540
2541
2542
2543
2544
2545
2546
2547
2548 | 529.99
563.20
499.63
509.70
505.23
435.45
498.85
542.84
525.65
540.49 | 382.58
299.92
237.64
243.32
417.64
368.11
436.64
650.90
619.80
573.39 | 174.35
239.60
280.36
236.38
329.50
302.17
382.32
278.69
249.20
237.86 | 110.98
131.74
179.2
154.91
243.71
296.99
363.65
365.49
383.70
403.51 | 101.68
122.40
122.58
157.22
136.39
139.30
138.76
165.83
171.67
185.31 | 212.26
209.80
225.79
240.70
231.18
233.39
266.39
294.24
291.67
281.09 | 251.15
270.50
294.09
344.11
302.51
266.66
321.81
275.47
395.41
410.77 | 1,762.99
1,837.15
1,839.40
1,886.34
2,166.15
2,042.08
2,354.42
2,573.45
2,637.10
2,632.40 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
ตารางที่ 12 ปริมาณการส่งการออกยางพาราแบ่งตามประเภท ปี 2539-2548(หน่วย : 1,000 ตัน)
ปี | ยางแผ่นรมควัน | ยางแท่ง | น้ำยางข้น | อื่นๆ | รวม |
2539
2540
2541
2542
2543
2544
2545
2546
2547
2548 | 1,180.18
1,095.21
1,047.15
1,071.49
1,006.14
870.42
1,050.0
1,149.61
1,003.38
920.97 | 324.31
456.46
480.22
540.99
808.48
763.28
828.56
912.60
997.95
1,109.33 | 202.87
225.11
246.44
216.85
284.67
347.54
382.46
408.99
493.08
488.68 | 55.63
60.37
65.60
57.01
66.86
60.84
93.40
102.25
142.68
113.42 | 1,762.99
1,837.15
1,839.40
1,886.34
2,166.15
2,042.08
2,354.42
2,573.45
2,637.10
2,632.40 |
ที่มา : สถาบันวิจัยยาง (2549)
2.3 การค้าและการส่งออก
2.3.1 การส่งออกยางธรรมชาติไปจีน
ประเทศไทยมีแนวโน้มการส่งออกยางธรรมชาติไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้น จากปริมาณการส่งออก 0.38 ล้านตัน ในปี 2539 เพิ่มเป็น 0.57 ล้านตัน ในปี 2548 (ตารางที่ 11) และช่วงครึ่งปีแรกของปี 2549 ประเทศไทยมีปริมาณการส่งออกยางพาราไปจีนแล้วกว่า 0.28 ล้านตัน (สถาบันวิจัยยาง, 2549)
2.3.2 คู่แข่งของไทยในการส่งออกยางพาราไปต่างประเทศ ประเทศไทยส่งออกยางพาราเป็นอันดับ 1 ของโลก และมีประเทศคู่แข่งการส่งออกยางพาราที่สำคัญได้แก่ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ในปี 2548 ประเทศไทยมีปริมาณการส่งออกยางพารามากที่สุดคือ 2.63 ล้านตัน มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 30 รองลงมาคือ อินโดนีเซีย 2.02 ล้านตัน มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 23 และมาเลเซีย 0.67 ล้านตัน มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 8 (ตารางที่ 6)
2.4 การบริโภคยางพาราและการตลาด
2.4.1 การบริโภคยางพาราภายในประเทศ
ประเทศไทยมีแนวโน้มการบริโภคยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้น จากปี 2539 ที่มีปริมาณการบริโภคยางพารา 0.17 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเป็น 0.33 ล้านตัน ในปี 2548 (ตารางที่ 10) แต่ปริมาณการบริโภคยางพาราของไทยมีอัตราส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับศักยภาพในการผลิต คือมีการบริโภคยางพาราภายในประเทศเพียงร้อยละ 11 ของปริมาณยางที่ผลิตได้ทั้งหมด
2.4.2 ระบบตลาดยางพาราของประเทศไทย
การผลิตยางพาราในประเทศไทยร้อยละ 95 เป็นสวนขนาดเล็ก ซึ่งพื้นที่ปลูกยางร้อยละ 84 อยู่ในภายใต้ของประเทศ สวนยางส่วนใหญ่นิยมผลิตยางในรูปยางแห้ง ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแผ่นดิบ ยางก้อนถ้วย เศษยาง และขี้ยาง คิดเป็นร้อยละ 83 ของสวนยางทั้งหมด มีเพียงร้อยละ 17 ที่ผลิตยางในรูปน้ำยางสด ระบบตลาดยางของประเทศไทยมี 3 ระบบ คือ ระบบตลาดท้องถิ่น ระบบตลาดกลางยางพารา และระบบตลาดซื้อขายล่วงหน้า
ระบบตลาดท้องถิ่นเป็นระบบตลาดที่ซื้อขายส่งมอบยางจริงภายในประเทศ เริ่มจากเกษตรกรรายย่อยขายยางให้กับพ่อค้ารับซื้อยางระดับหมู่บ้านหรือตำบล ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ไปสู่โรงงานแปรรูปยางซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ส่งออกยาง ชาวสวนยางส่วนใหญ่นิยมขายยางผ่านระบบตลาดท้องถิ่นโดยเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ขายยางเอง มีเพียงบางจังหวัดเท่านั้นที่มีการรวมกลุ่มและผลิตยางแผ่นรมควันในรูปสหกรณ์
ระบบตลาดกลางยางพาราเป็นระบบตลาดที่ซื้อขายส่งมอบยางจริงภายใน ประเทศอีกรูปแบบหนึ่ง ทำหน้าที่บริการการซื้อขายยางประเภทต่างๆ เช่น ตลาดกลางยางพารา สุราษฎร์ธานี ตลาดกลางยางพารานครศรีธรรมราช และตลาดกลางยางพาราหาดใหญ่ จะมีคลังสินค้าให้บริการเก็บฝากยางแก่เกษตรกร และเก็บฝากยางตามโครงการแทรกแซงตลาดยางพาราของรัฐบาล และให้บริการข้อมูลสารด้านยาง
ระบบซื้อขายล่วงหน้าใช้ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (The Agricultural Future Exchange of Thailand: AFET) ในการเปิดดำเนินการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 เป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2547 ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 2-6 เดือน ซึ่งในระยะแรกการซื้อขายยางผ่านระบบซื้อขายล่วงหน้ายังมีไม่มากนัก แต่คาดว่าระบบนี้จะมีบทบาทในการซื้อขายยางมากขึ้นในอนาคต
2.5 การลงทุน
2.6 นโยบายยางพาราไทย
2.7 การวิเคราะห์ SWOT ในระบบอุตสาหกรรมยางพาราไทย
2.8 อุตสาหกรรมยางพาราภายหลังจีนเข้าเป็นสมาชิกองค์การค้าโลก
2.9 อุตสาหกรรมยางพาราภายหลังการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน
2.10 ข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา
2.10.1 ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ
2.10.2 ข้อเสนอแนะต่อภาพเอกชนและภาคอุตสาหกรรมยาง